ShoutBox



[LN] Sword Art Online [SAO] ตอนที่ 1

วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2555



Sword Art Online [SAO] ตอนที่1


ดาบสีเทาได้ตัดผ่านลงมายังไหล่ของผม


เส้นบางๆด้านซ้ายบนของผมลดลงมาเล็กน้อย ในขณะเดียวกันผมก็รู้สึกได้ถึงความเย็นได้เล่นผ่านหัวใจผมไป


เส้นสีฟ้าที่มีชื่อเรียกว่า “แถบ HP” คือพลังชีวิตของผม ตอนนี้มันเหลืออยู่ประมาน 80 เปอร์เซ็นต์, ไม่สิ ส่งสัยผมคงพูดผิดไป เพราะว่าตอนนี้มันเหลืออีกแค่ 20 เปอร์เซ็นก่อนที่ผมจะตายน่ะสิ


ผมถอยหลังออกห่างศัตรูก่อนที่มันจะตั้งท่าเหวี่ยงดาบเพื่อโจมตีผม



“ฮ่า.....”


ผมสูดหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่เพื่อที่จะให้ร่างกายคงที่, “ร่างกาย” ในโลกแห่งนี้ไม่ต้องการ ออกซิเจน แต่ร่างกายที่อยู่อีกฟากนึงนั้นหรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือร่างกายที่ตอนนี้กำลังหลับอยู่ในโลกแห่งความจริงนั้นคงจะหายใจหอบอย่างหนัก มือเล็กๆของผมในตอนนี้คงจะเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ พร้อมกับหัวใจที่เต้นระรัวไม่เป็นสั่น


และแน่นอน


ถึงแม้ทุกอย่างที่ผมเห็นในตอนนี้จะไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่า โลก 3D เสมือนจริง และหลอด HP ที่กำลังลดอยู่ก็ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่าผมกำลังถูกโจมตีอยู่ แต่ความจริงที่ว่าผมกำลังต่อสู้เสี่ยงชีวิตอยู่นั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยสักนิด


พอคิดดูแล้ว การต่อสู้นี้มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย เพราะว่า “ศัตรู” ที่อยู่ข้างหน้าผมนั้น เป็น อมนุษย์ที่มีแขนส่องประกายและปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเขียวเข้มมาพร้อมกับหัวและหางที่เหมือนกับกิ้งก่า , จะบอกว่าเป็นมนุษย์ก็ไม่ใช่ จะเป็นสิ่งมีชีวิตก็ไม่เชิง เพราะมันเป็นแค่กลุ่มก้อนข้อมูลที่สร้างขึ้นมาเรื่อยๆไม่ว่ามันจะถูกฆ่าไปแล้วกี่ครั้งก็ตาม


ไม่สิ


AI ที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของเจ้ากิ้งก่าตัวนี้จะทำการศึกษาการเคลื่อนไหวของผมและจะพัฒนาความสามารถของมันเพื่อที่จะตอบโต้ผมได้ดีขึ้นทุกๆวินาที แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อกำจัดเจ้าตัวนี้ได้ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกลบออกไปและจะไม่ถูกส่งต่อไปยังตัวใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในบริเวรนั้น


เพราะงั้นถ้าจะพูดให้ถูกคือ เจ้ากิ้งก่านี่ก็คือสิ่งมีชีวิต, สิ่งมีชีวิตหนึ่งเดียวบนโลกใบนี้


“...สินะ?”


คงไม่มีทางที่มันจะเข้าใจคำที่ผมบ่นพึมพำกับตัวเองเมื่อกี๊หรอก และแล้วเจ้ากิ้งก่าตัวนี้ มอนส์เตอ เลเวล 82 ที่มีชื่อเรียกว่า “จ้าวแห่งกิ้งก่า” ก็ค่อยๆส่งเสียงขู่พร้อมกับยิ้มออกมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงเขี้ยวอันแหลมคมที่งอกมาจากกรามยาวๆของมัน


มันคือความจริง ทุกๆสิ่งบนโลกใบนี้ล้วนแล้วแต่เป็นของจริง ไม่ใช่ภาพเสมือนจริงหรือของปลอมแต่อย่างใด


ผมค่อยๆขยับดาบยาวมือเดียวที่อยู่ในมือขวาขนานไปกลับกลางลำตัวของผมและจ้องไปยังศัตรู


เจ้ากิ้งก่าค่อยๆเคลื่อนโล่ที่อยู่ในมือซ้ายไปข้างหน้าและดึงดาบสั้นที่อยู่ในมือขวาไปไว้ด้านหลัง


สายลมเย็นๆค่อยๆพัดผ่านเข้ามาในดั้นเจี้ยนที่ปกคลุมไปด้วยเงาทำให้แสงไฟจากคบเพลิงค่อยๆสั่นไหวไปมา, พื้นที่เปียกก็ได้สะท้อนแสงไฟจากคบเพลิง


“กรรรร!”


เจ้ากิ้งก่ากระโจนเข้ามาหาผมบวกกับเสียงคำรามที่ดังกังวาล ดาบสั้นที่อยู่ในมือมันค่อยๆวาดออกมาเป็นวงพร้อมกับพุ่งเข้ามาหาผม แสงสีส้มค่อยสว่างขึ้นมาตามรอยที่มันวาดเอาไว้ วิชาดาบขั้นสูงของดาบโค้ง “เสี้ยวจันทรา” มันคือวิชาดาบประเภทชาร์จที่ครอบคลุมพื้นที่ในระยะ 4 เมตรในเวลา 0.4 วินาที


แต่ผมก็คาดการการโจมตีนี้ไว้อยู่แล้ว


ผมค่อยๆเพิ่มระยะห่างออกมาเพื่อที่จะล่อให้ AI สร้างสถานการณ์นี้ขึ้นมา ร่างของผมเข้าประชิดตัวกับเจ้ากิ่งก่า ดาบสั้นที่เฉือนผ่านอากาสเข้ามาเพียงไม่กี่เซนติเมตรก่อนจะโดนจมูกของผมพร้อมทิ้งกลิ่นไหม้เอาไว้จนฝังลึกลงไปในใจของผม


“…ฮ่า!”


ผมตะโกนออกมาสั้นๆพร้อมเหวี่ยงดาบออกไปเป็นแนวขวาง ดาบที่ตอนนี้ปกคลุมไปด้วยแสงสีฟ้าคราม ตัดผ่านหน้าท้องบางๆของมันตามด้วยแสงสีแดงที่พุ่งออกมาแทนที่จะเป็นเลือด ตามมาด้วยเสียงร้องเบาๆ


ถึงกระนั้น ดาบของผมหาได้หยุดไม่ ระบบสนับสนุนทำให้ร่างของผมเคลื่อนไหวพร้อมกับการฟันครั้งต่อไปด้วยความเร็วที่ปกติแล้วคงจะเป็นไปไม่ได้ตามที่โปรแกรมตั้งเอาไว้


นี่คือส่วนที่สำคัญที่สุดในการต่อสู้ของโลกใบนี้ “วิชาดาบ”


ดาบค่อยๆเพิ่มความเร็วมากขึ้นจากทางขวาไปทางซ้ายพร้อมเฉือนเข้ากับหน้าอกของเจ้ากิ้งก่า หลังจากนั้น ผมก็หมุนร่างของเป็นวงกลมพร้อมกับการโจมตีครั้งที่สามด้วยดาบที่ฝังลึกลงไปยิ่งกว่าเดิม


“กรรรรรร!”


เจ้ากิ้งก้าค่อยๆหายจากอาการมึนงง หลังจากพลาดการโจมตีอันรุนแรงไป มันก็คำรามออกมาด้วยความโกรธหรืออาจจะเป็นเพราะความกลัว พร้อมกับยกดาบสั้นขึ้นสูงเหนืออากาศ


แต่การโจมตีของผมยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ ดาบที่ถูกเหวี่ยงไปทางขวากระเด้งกลับมาราวกับถูกสปริงดีดกลับพร้อมกับดันไปทางซ้ายและขึ้นด้านบนจนไปโดนเข้ากับหัวใจมัน – จุดคริติคอล


แสงสีฟ้าครามรูปสี่เหลี่ยมที่ถูกวาดขึ้นมาด้วยการโจมตีสี่ครั้งของผมก่อให้เกิดแสงขึ้นมาพร้อมแตกกระจายไป วิชาฟันด้วยแนวขวางอย่างต่อเนื่องด้วยการโจมตีสี่ครั้ง “สี่เหลี่ยมแนวขวาง”


แสงใสๆส่องประกายออกมาอย่างเจิดจ้าไปทั่วดันเจี้ยนและดับหายไป ในขณะเดียวกัน แถบ HP บนหัวของเจ้ากิ่งก่าก็ได้หายไปโดยไม่เหลือแม้แต่รอยจุดเลยแม้แต่จุดเดียว


ร่างอันใหญ่โตของมันค่อยๆร่วงลงมาจนก่อให้เกิดเป็นทางยาวจากนั้นร่างของมันก็หยุดชะงักไป


มาพร้อมกับเสียงที่เหมือนกับแก้วแตก, ร่างของมันค่อยๆพังลงมาและกลายเป็นโพลีก้อนอย่างมากมายมหาศาลและได้จางหายไป


นึคือ “ความตาย” ของโลกใบนี้ มันทั้งรวดเร็วและสั้น มันการพังทลายอย่างสมบูรณ์ไม่เหลือไว้แม้แต่เศษซากของมัน


ผมเหลือบมองไปยังค่าประสบการณ์และไอเทมที่ผมดรอปได้ซึ่งปรากฏเป็นตัวอักษรสีม่วงอยู่ข้างหน้าผม ผมเหวี่ยงดาบไปทางขวาและซ้ายก่อนจะเก็บเข้าไปในฝักดาบที่อยู่หลังผม, ผมเดินถอยหลังไปประมาณสองถึงสามก้าวก่อนที่จะค่อยๆเลื่อนตัวลงนั่งโดยมีกำแพงดันเจี้ยนเป็นที่พิงหลัง


ผมถอนหายใจออกมาพร้อมกับค่อยๆหลับตาลง , ร่างกายของผมเริ่มล้าไปทั้งตัวอาจเป็นเพราะการต่อสู้อันยาวนาน, ผมค่อยๆส่ายหัวไปมาเพื่อที่จะไล่ความเจ็บปวดนี้ให้หายไปพร้อมกับลืมตาขึ้นมา


นาฬิกาที่ส่องแสงสะท้อนมาจากมุมขวาล่างของผมแสดงให้เห็นว่าตอนนี้ได้เลยเวลาบ่ายสามมาแล้ว, ผมควรจะออกจากเขาวงกตแห่งนี้สักทีเพราะไม่งั้นอาจจะไปถึงเมืองก่อนค่ำไม่ทัน


“... งั้นไปเลยดีไหมนะ?”


ถึงจะไม่มีคนอยู่ที่นี่ แต่ผมก็พูดออกมาและค่อยๆยืนขึ้นอย่างช้าๆ


วันนี้ผมก็สำเร็จเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับวันนี้แล้ว, แถมวันนี้ยังรอดตายไปได้อย่างหวุดหวิดอีกครั้งด้วย แม้จะได้พักแค่ช่วงสั้นๆ แต่วันพรุ่งนี้ก็ต้องเจอกับการต่อสู้อีกมากมาย และเมื่อถึงเวลาที่จะต้องสู้โดยไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่เปอร์เซนต์เดียว ไม่ว่าคุณจะเตรียมทางหนีทีไล่ไว้เยอะแค่ไหน แต่มันก็ต้องมีสักวันนึงที่เทพธิดาแห่งโชคลาภนั้นจะต้องโทดทิ้งคุณไป


ปัญหาก็คือเกมนี้จะสามารถทำการ “เคลียร์” ได้หรือไม่ ก่อนที่ผมจะจั่วได้ไพ่เอโพดำ หรือ ในอีกความหมายนึงก็คือ ไพ่แห่งความตาย


ถ้าคุณคิดจะว่าชีวิตมีค่าเหนือสิ่งอื่นใดละก็ คุณก็ควรที่จะอาศัยอยู่หมู่บ้านและรอให้ใครสักคนเคลียร์เกมได้คงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่สำหรับคนอย่างผมที่ไปแนวหน้าคนเดียวทุกวัน, นี่ผมเป็นแค่พวกติดเกม VRMMO ที่ชอบเก็บเลเวลผ่านการต่อสู้นับครั้งไม่ถ้วน หรือ —


ผมจะเป็นแค่คนบ้าอวดดีที่คิดว่าจะสามารถนำอิสรภาพของทุกคนกลับคืนมาได้ด้วยดาบของผมกันแน่?


ผมเริ่มเดินเข้ามายังหน้าทางเข้าของเขาวงกตด้วยรอยยิ้มเล็กๆที่เหมือนกับเหยียดหยามตัวเอง, ผมลองนึกย้อนไปในวันนั้น


เมื่อสองปีก่อน


วันที่ทุกอย่างได้จบลง และเริ่มต้นขึ้น

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น